โรงเรียนนำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา
Sep 23, 2024 10:10 AM โดย ดร.ปรีชา เริงสมุทร์โรงเรียนประทีปธรรมมูลนิธิ ได้รับการคัดเลือกเป็นสถานศึกษานำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จังหวัดกระบี่
โรงเรียนประทีปธรรม มูลนิธิได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จังหวัดกระบี่ ให้เป็นสถานศึกษานำร่อง ในปี พ.ศ. 2565 โดยมีสถานศึกษานำร่องพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดกระบี่ รุ่นที่ 1 จำนวน 27 โรงเรียน อนึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบการจัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เพิ่มเติมรวมทั้งจังหวัดกระบี่ เป็น 11 จังหวัด และเมื่อรวมกับพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาในปัจจุบันที่มีการจัดตั้งแล้ว 8 จังหวัด ส่งผลให้ปัจจุบันมีพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา รวมทั้งสิ้น 19 จังหวัด ตามประกาศในภาพ
พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาสำคัญอย่างไร
พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา หมายถึง พื้นที่การปฏิรูปการบริหารและการจัดการการศึกษาเพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมการศึกษาซึ่งเป็นพื้นที่ระดับจังหวัดที่สถานศึกษานำร่องสามารถจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับบริบทในพื้นที่ โดยสามารถมีการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่นคล่องตัว ไม่ต้องอิงกับกฎระเบียบที่ไม่จำเป็นหรือไม่เอื้อจากส่วนกลาง มีกลไกการจัดการศึกษาระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
เหตุผลที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้จังหวัดกระบี่จัดตั้งพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เนื่องจากจังหวัดกระบี่ มีบุคลากรทางการศึกษาที่มีความเข้าใจบริบทของพื้นที่และมีศักยภาพในการสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษา โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา ความเสมอภาคด้านการศึกษา รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าใจตนเอง และเลือกเส้นทางในการศึกษาต่อตามความถนัดและความสนใจ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในพื้นที่
วัตถุประสงค์ของพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา เพื่อปฏิวัติรูปแบบการบริหารจัดการการศึกษารูปแบบใหม่ที่มีเป้าหมายสำคัญ 4 ประการ ดังนี้
- คิดค้น พัฒนา นวัตกรรมเพื่อยกผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนอย่างรอบด้าน รวมทั้งดำเนินการขยายผล
- ลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา
- กระจายอำนาจและให้อิสระแก่หน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษานำร่องเพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพการจัดการศึกษา
- สร้างและพัฒนากลไกในการจัดการศึกษาร่วมกันของทุกภาคส่วนในพื้นที่ โรงเรียนได้ทำการพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะเป็นหลักสูตรที่ยึดความสามารถของผู้เรียนเป็นหลัก การออกแบบหลักสูตร จะมีการกำหนดเกณฑ์ความสามารถที่ผู้เรียนพึงปฏิบัติได้ หลักสูตรที่เรียกว่าหลักสูตรเกณฑ์ความสามารถ จัดทำขึ้นเพื่อประกันว่าผู้ที่จบการศึกษาระดับหนึ่ง ๆ จะมีทักษะและความสามารถในด้านต่าง ๆ ตามที่ต้องการ เป็นหลักสูตรที่ไม่ได้มุ่งเรื่องความรู้หรือเนื้อหาวิชาที่อาจมีความเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา แต่จะมุ่งพัฒนา ในด้านทักษะ ความสามารถ เจตคติและค่านิยม อันจะมีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันและอนาคตของผู้เรียน
ลักษณะสำคัญ หลักสูตรฐานสมรรถนะ (Competency-Based Curriculum)
ลักษณะสำคัญ หลักสูตรฐานสมรรถนะ (Competency-Based Curriculum) หลักสูตรฐานสมรรถนะแตกต่างจากของหลักสูตรปัจจุบันตรงที่ การกำหนดเป้าหมายจะมุ่งไปที่สมรรถนะของผู้เรียนว่า ผู้เรียนจะต้องทำอะไรได้ ซึ่งต่างจากหลักสูตรอิงมาตรฐานที่มาตรฐานและตัวชี้วัดจำนวนมากเน้นไปที่ผู้เรียนว่า จะต้องรู้อะไร สรุปได้ว่า หลักสูตรฐานสมรรถนะเน้นทักษะ (Skl) ในขณะที่หลักสูตรอิงมาตรฐานค่อนข้างเน้นเนื้อหาสาระ (Content) หลักสูตรฐานสมรรถนะจึงเป็นหลักสูตรที่ยึดความสามารถที่ผู้เรียนพึงปฏิบัติไติได้เป็นหลัก เพื่อประกันว่า ผู้ที่จบการศึกษาระดับหนึ่งๆ จะมีทักษะและความสามารถในด้านต่างๆ ตามที่ต้องการ
หลักสูตรฐานสมรรถนะโดยทั่วไป จะกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้เชิงสมรรถนะ (Learning Competencies) โดยทั่วไปสำหรับผู้เรียนในช่วงวัยหรือช่วงชั้นต่างๆ ให้แก่ครู เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียนหลักสูตรฐานสมรรถนะ นอกจากจะกำหนดสมรรถนะไว้ให้แล้ว อาจกำหนดสาระการมีความมรู้ชั้นต่ำสำหรับการพัฒนาสมรรถนะที่กำหนดให้แก่ผู้เรียน หรืออาจให้โรงเรียน และครูกำหนดได้ตามความเหมาะสม สมรรถนะและสาระการรียนรู้ที่กำหนดให้นั้นเป็นขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับเด็กไทยทุกคน หลักสูตรจะต้องจัดให้มีพื้นที่สำหรับโรงเรียนและครูในการจัดการเรียนรู้สาระ ทักษะ และคุณลักษณะเฉพาะ เพื่อตอบสนองความต้องการตามความแตกต่างกันของผู้เรียน ภูมิสังคมและบริบท ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละช่วงวัยการกำหนดสมรรถนะที่เป็นเกณฑ์กลาง/มาตรฐานกลางสำหรับการจัดการศึกษาในแต่ละช่วงวัย จะเอื้ออำนวยให้สถานศึกษาสามารถพัฒนาหลักสูตรในรูปแบบต่างๆตามแนวคิดของตนได้ โดยยึดสมรรถนะเป็นเกณฑ์กลาง
โดยหลักสูตรของโรงเรียนประทีปธรรมเป็นประเภทที่ 3 หลักสูตรอื่นๆที่สถานศึกษานำร่องประสงค์จะจัดการเรียนการสอนโดยคณะกรรมการนโยบายพื้นที่ นวัตกรรมการศึกษามีมติเห็นชอบให้สถานศึกษานำร่องสามารถประยุกต์ใช้แนวคิดหลักการของหลักสูตรอิงสมรรถนะ หรือหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานฉบับใหม่หรือใช้นวัตกรรมหรือแนวคิดใหม่ๆ ไปทดลองพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ของตัวเองได้รวมทั้งสถานศึกษานำร่องสามารถปรับการจัดการเรียนการสอนและการวัดประเมินผลให้สอดคล้องกับหลักสูตรดังกล่าว
หลักสูตรนี้ เป็นหลักสูตรประเภทที่ 3 กล่าวคือ เป็นหลักสูตรที่สถานศึกษานําร่องประสงค์จะจัดการเรียนการสอนโดยไม่ใช้ หลักสูตรตามมาตรา 20 (4) เป็นหลักสูตรตามมาตรา 25 วรรคสี่ ซึ่งคณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรม การศึกษา เมื่อวันที่ 21 กันยํายน 2563 มีมติเห็นชอบให้สถานศึกษานําร่องสามารถประยุกต์ใช้แนวคิด หลักการชองหลักสูตรอิงสมรรถนะหรือ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานฉบับใหม่ หรือใช้นวัตกรรมหรือแนวคิดใหม่ๆ ไปทดลองพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาของตนเอง
รวมทั้งสถานศึกษานําร่องสามารถปรับการจัดการเรียน การสอนและวัดประเมินผลให้สอดคล้องกับ หลักสูตรดังกล่ําวเป็นหลักสูตรที่ยึดความสามารถของผู้เรียนเป็นหลัก การออกแบบหลักสูตร มีการกําหนดเกณฑ์ความสามารถที่ผู้เรียนพึงปฏิบัติได้ หลักสูตรที่เรียกว่าหลักสูตรเกณฑ์ความสามารถ จัดทําขึ้นเพื่อประกันว่าผู้ที่จบการศึกษาระดับหนึ่ง ๆ จะมีทักษะและความสามารถในด้านต่าง ๆ ตามที่ต้องการ
หลักสูตรนี้ เป็นหลักสูตรที่ไม่ได้มุ่งเรื่องความรู้หรือเนื้อหาวิชาที่อาจมีความเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา แต่จะมุ่งพัฒนา ในด้านทักษะ ความสามารถ เจตคติและค่านิยม อันจะมีประโยชน์ต่อชีวิตประจําวันและอนาคตของผู้เรียน
หลักสูตรฐานสมรรถนะของโรงเรียนประทีปธรรมมูลนิธิเป็นอย่างไร
การออกแบบหลักสูตร การจัดการเรียนรู้และการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ ตาม (ร่าง) กรอบ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2564 จึงมีเป้าหมาย ในการพัฒนาสมรรถนะ หลักของผู้เรียนที่เหมาะสมตามช่วงวัย จัดสภาพแวดล้อมและเส้นทางการเรียนรู้(Learning Pathways) ที่หลากหลาย
จัดระบบสนับสนุนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับธรรมชาติของผู้เรียน(Differentiated Learning) ใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ใช้สื่อและสถานการณ์การเรียนรู้ ที่ร่วมสมัย หลากหลายและยืดหยุ่น ตามความสนใจและความถนัดของผู้เรียน บริบท และจุดเน้นของสถานศึกษาและชุมชนแวดล้อม เน้นประเมิน การเรียนรู้เพื่อพัฒนาและสะท้อนสมรรถนะของผู้เรียนตามเกณฑ์ การปฏิบัติที่เป็นธรรม เชื่อถือได้ เอื้อต่อ การถ่ายโยงการเรียนรู้และพัฒนาในระดับที่สูงขึ้นตามความเชี่ยวชาญของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง
โรงเรียนประทีปธรรมมูลนิธิ มีเป้าหมายให้ผู้เรียนบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ตามจุดประสงค์ฐานสมรรถนะที่เกิดจากความ ฉลาดรู้ (Literacy) จากประสบการณ์ตรง เป็นการสร้างสมรรถนะด้วยชุดความรู้ความเข้าใจของตนเอง ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูงและลึกซึ้ง จนเกิดเจตคติและตระหนักถึงคุณค่าที่มีความหมายต่อตนเองและผู้อื่น สามารถนําชุดความรู้นั้น ๆ ไปพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกื้อกูลกับธรรมชาติต่อไป
โรงเรียนประทีปธรรมมูลนิธิจึงจัดทําหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ เพื่อออกแบบการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียน เป็นรายบุคคลได้อย่างแท้จริง มีการจัดกระบวนการเรียนรู้ขั้นสูงผ่านประสบการณ์ รองรับความแตกต่าง และพัฒนาศักยภาพ ที่เน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นสมรรถนะติดตัว นําสู่การเปลี่ยนแปลง พัฒนา ทั้งตนเอง สังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติ
โดยใช้ระบบการประเมินสมรรถนะ หรือการบรรลุเป้าหมาย ในเชิงผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นเกณฑ์ อันจะเป็นเป้าหมายให้ครูผู้สอนนําพาผู้เรียนไปสู่การพัฒนา ให้เกิดสมรรถนะการเรียนรู้ที่จําเป็นต่อการศึกษาและการดํารงชีวิตในโลกยุคปัจจุบันและอนาคต
ในการนี้ขอขอบคุณบุคลากรโรงเรียนประทีปธรรมมูลนิธิทุกท่าน ที่ได้ร่วมมือ ร่วมแรงและร่วมใจในการจัดทํา สูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ ปีการศึกษา 2567 ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ให้มีความสมบูรณ์ และพร้อมสําหรับการนําไปใช้พัฒนาผู้เรียนให้เกิดประโยชน์ต่อไป
เราจะพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะได้อย่างไร
ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ เราต้องทำความเข้าใจองค์ประกอบของหลักสูตรและ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ก่อน เพื่อให้เกิดความความสอดคล้องสัมพันธ์กันระหว่างสิ่งที่กำหนดไว้ใน เอกสารหลักสูตรและการนำหลักสูตรไปใช้จริง หากพิจารณาตามเกณฑ์การพิจารณาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ ของสำนักงานพื้นที่นวัตกรรม การศึกษา (สบน.) จะเห็นได้ว่ามีการจัดทำเกณฑ์ขึ้นบนฐานขององค์ประกอบหลักที่สำคัญของการจัดการศึกษาฐาน สมรรถนะ ประกอบด้วย การจัดหลักสูตรฐานสมรรถนะ การจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ และการวัดและประเมินผล ฐานสมรรถนะ โดยจัดกลุ่มเกณฑ์เป็น 7 ด้านหลัก ได้แก่
- แนวคิด ข้อมูลพื้นฐาน และกระบวนการจัดทำหลักสูตร สถานศึกษาฐานสมรรถนะ
- เป้าหมายและพันธกิจของสถานศึกษา
- แบบแผนของหลักสูตรสถานศึกษาฐาน สมรรถนะ
- แนวทางการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ
- แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ
- แนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรฐานสมรรถนะ
- หลักสูตรระดับชั้นเรียน
ทั้งนี้ข้อมูลในเกณฑ์แต่ละด้านจะมี ความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน
ในการเริ่มต้นพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะนั้น ต้องศึกษาบริบทของสถานศึกษา ชุมชน ท้องถิ่น พื้นที่ จังหวัด นโยบายระดับชาติ และแนวโน้มการจัดการศึกษาในระดับสากล เพื่อให้เข้าใจพื้นฐานและต้นทุนที่มี ซึ่งข้อมูลใน ส่วนนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการนำมากำหนดแนวคิดหลัก (School Concept) หรือจุดเน้น วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ของสถานศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็น บริบทในระดับต่างๆ และต้นทุนของสถานศึกษา รวมทั้งนำไปสู่ การกำหนดแบบแผนของหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ ได้แก่ จุดหมายของหลักสูตร คุณลักษณะของผู้เรียน สมรรถนะหลัก สาระการเรียนรู้ผลลัพธ์การเรียนรู้ให้สอดคล้องกับจุดเน้นและวิสัยทัศน์ของสถานศึกษา รวมทั้ง ตอบสนองต่อปัญหาความต้องการของผู้เรียนและชุมชน
จากนั้นกำหนดการจัดรายสาระการเรียน โครงสร้างเวลาเรียน และนำมาสู่การจัดทำคำอธิบายรายสาระการเรียนรู้ทั้งนี้ แม้จุดเน้นของสถานศึกษาอาจจะมีความเหมือนกัน แต่เนื่องจากข้อมูลในส่วนบริบทของสถานศึกษามีความแตกต่างกัน การกำหนดจุดหมายของ หลักสูตร คุณลักษณะของผู้เรียน สมรรถนะหลัก สาระการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ การจัดรายสาระการเรียน โครงสร้างเวลาเรียน ก็จะมีความแตกต่างกันตามบริบทของสถานศึกษา ในส่วนของแบบแผนของหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ สถานศึกษาจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจ (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.... เพื่อใช้เป็นกรอบในการพัฒนาหลักสูตรตามข้อกำหนด
อย่างไรก็ตามสถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมจุดหมายของหลักสูตร คุณลักษณะของผู้เรียน สมรรถนะหลัก สาระการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ในหลักสูตรสถานศึกษาได้ หากพบว่าข้อกำหนดในหัวข้อดังกล่าวยังไม่สอดคล้องหรือครอบคลุม แนวคิดหลัก (School Concept) วิสัยทัศน์ และจุดมุ่งหมายของหลักสูตรสถานศึกษา เพื่อให้สอดคล้องและตอบโจทย์ ความต้องการเฉพาะหรือบริบทของสถานศึกษา โดยมีโครงสร้างเวลาเรียนตามข้อกำหนดของ (ร่าง) กรอบหลักสูตรฯ จากนั้นกำหนดแนวทางการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดคุณลักษณะและสมรรถนะ ตาม จุดหมายของหลักสูตรและจุดเน้นของสถานศึกษา กำหนดแนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ และกำหนดแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรฐานสมรรถนะ รวมทั้งจัดทำหลักสูตรระดับชั้นเรียนที่มีการกำหนด สถานการณ์ งาน และกิจกรรมการเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับหลักการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะและทางการจัดการ เรียนรู้ที่สถานศึกษากำหนด สิ่งสำคัญในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะคือ ข้อมูลในองค์ประกอบต่างๆ จะต้องมีความ สอดคล้องสัมพันธ์กันทั้งระหว่างองค์ประกอบภายในแต่ละด้านและองค์ประกอบภายนอก โดยมีความเชื่อมโยงของ ด้านต่างๆ ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานไปจนถึงหลักสูตรระดับชั้นเรียน
อ่านและศึกษาหลักสูตรฐานสมรรถนะโรงเรียนประทีปธรรมมูลนิธิ คลิ้ก
1. ลิ้งค์ คู่มือการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ https://drive.google.com/file/d/1bQp5Y4efepNTdwReSzRk_KW-0w_WtchC/view?usp=drive_link
2. ลิ้งค์ หลักสูตรฐานสมรรถนะ : https://drive.google.com/file/d/1bKfoKwB8VX9PxuEekH_mWxPL7l3tYNsR/view?usp=drive_link
3. ลิ้งค์ ภาคผนวก: https://drive.google.com/file/d/1bMLhr2ME27V7pznRT1weawTxcSxDZKnC/view?usp=drive_link3.
ดร.วิทยา เริงสมุทร์
ผู้อำนวยการ
โรงเรียนประทีปธรรม มูลนิธิ